พัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังติดอันดับในประเทศไทย ที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยมากมาย ต่างพากันเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ส่งผลให้ราคาที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นมีราคาที่ค่อนข้างแพงขึ้นในทุก ๆ ปี นับเป็นทำเลทองที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่างมองหาโอกาสในการเข้าซื้อลงทุน
หากนักลงทุนมือใหม่ หรือใครที่กำลังวางแผนจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด มองหาทำเลที่เหมาะสม รวมถึงการทำตามคำแนะนำที่ถูกต้อง จะช่วยให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ดังนั้นบทความนี้เราจะมาแนะนำและชี้ให้เห็นถึงข้อสำคัญที่ทำให้พัทยากลายเป็นเมืองที่น่าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ รวมถึงคำแนะนำที่ต้องศึกษาให้ดี หากคุณตัดสินใจที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา มาเรียนรู้และทำความเข้าใจกันเลย
ข้อสำคัญที่ทำให้พัทยาเหมาะสำหรับการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา คุณต้องรู้ถึงจุดสำคัญที่ทำให้เมืองพัทยากลายเป็นทำเลทองของนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เสียก่อน เพื่อที่คุณจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจในการซื้อและลงทุนได้อย่างถูกต้อง
- เมืองท่องเที่ยวติดอันดับ
นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวพัทยามีจำนวนมากขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเฉลี่ยแล้วมีราว ๆ ประมาณ 10 ล้านคนต่อปี เรียกได้ว่าเยอะเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทยเลยทีเดียว ด้วยสาเหตุความต้องการที่มาก ส่งผลให้พัทยาจึงกลายเป็นแหล่งทองคำสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ที่ต้องการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อผลประโยชน์ในอนาคตเลย
- สถิติการเข้าทำงานของคนต่างชาติเป็นอันดับสอง
เชื่อหรือไม่ว่า นอกจากการปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากแล้ว พัทยายังถือเป็นเมืองอันดับสองสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทยเช่นกัน เรียกได้ว่า แม้จะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นสำหรับท่องเที่ยว ก็ยังคงมีอุปสงค์และมีฐานลูกค้ารองรับอยู่ดี ดังนั้นใครที่กำลังลังเลอยู่ เราแนะนำให้ลองพิจารณาอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาอยู่ เมืองนี้ถือเป็นเมืองที่น่าลงทุนจริง ๆ
- โลเคชั่นเหมาะสำหรับลงทุนเพื่ออนาคต
พัทยาเป็นเมืองที่ติดริมทะเล รวมถึงที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินถึง 2 แห่ง ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา อีกทั้งยังเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาขับรถเพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น นักลงทุนหรือใครที่กำลังวางแผนจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา สามารถเดินทางไปสำรวจพื้นที่จริงหน้างานได้สะดวกรวดเร็ว หรือหากมีเหตุให้ต้องเดินทางไปติดต่อการซื้อขายก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้านหรือคอนโดมิเนียมในพัทยา ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
ใครที่กำลังวางแผนจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้านหรือคอนโดมิเนียมหลังแรกเพื่ออยู่อาศัยในพัทยา และกำลังสับสนว่าควรเตรียมตัวอย่างไร ขั้นตอนการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมในพัทยาเป็นอย่างไร เราสามารถช่วยอธิบายคลายความสับสน ลังเลให้คุณเองซึ่งจริง ๆ แล้วขั้นตอนการซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น จะมี 4 ขั้นตอนหลักดังนี้
- เลือกทำเลและอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการซื้อ
การเลือกทำเลในการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมนั้น เราแนะนำให้คุณคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคุณเป็นหลัก เช่น ถ้าคุณซื้อเพื่ออยู่อาศัย ชื่นชอบความเงียบสงบ เราก็แนะนำให้ซื้อที่พักที่ไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งสถานบันเทิงภายในพัทยามากนัก เช่น โซนจอมเทียน นาจอมเทียน หรือพระตำหนัก ที่สามารถเดินทางไม่ไกลมากและไม่วุ่นวายจนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ และประเภทอสังหาริมทรัพย์ด้วย ว่าคุณชื่นชอบห้องลักษณะแบบไหน สไตล์การตกแต่ง หากเจอที่ชื่นชอบและถูกใจแล้ว เราแนะนำให้คุณทำการจองไว้เลย ซึ่งค่าจองอสังหาริมทรัพย์นั้นก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการและโปรโมชันในช่วงนั้นด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ซึ่งในค่าใช้จ่ายตอนแรกก่อนที่จะได้เงินกู้นั้น เราแนะนำให้คุณเตรียมเงินไว้ประมาณ 5% – 30% ของราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าจอง ค่าจดจำนอง ค่าทำสัญญาซื้อขาย และส่วนกลาง
- ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมก่อนกู้ซื้อ
ขั้นตอนการตรวจสอบและเตรียมความพร้อมของตัวคุณเอง เพื่อทำการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม คุณสามารถปรึกษากับพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์โครงการได้เลย ส่วนใหญ่แล้วเขาจะช่วยคำนวณฐานเงินเดือนให้ว่าคุณมีรายรับรายจ่ายเท่าไหร่ มีหนี้สินและสามารถกู้ธนาคารได้เต็มวงเงินในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่ และต้องใช้เวลาผ่อนกี่ปีกี่เปอร์เซ็นต์ หากคุณมีโอกาสกู้ผ่านเขาก็เชียร์ให้คุณดำเนินการต่อ ส่วนเอกสารที่ต้องจัดเตรียมจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
- เอกสารส่วนบุคคล ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ บัตรวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน ใบหย่าร้าง ใบมรณะบัตร (ถ้ามี) สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี) และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
- เอกสารทางการเงิน สำหรับพนักงานประจำ ได้แก่ ใบรับรองเงินเดือน หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ได้แก่ สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินอื่น ๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง) สำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน หลักฐานการเสียภาษีเงิน รูปถ่ายกิจการ และสำเนาใบประกอบอาชีพ
- เอกสารหลักประกัน ได้แก่ สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย สำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดทุกหน้า หลักฐานการผ่อนดาวน์ (ถ้ามี)
- เลือกธนาคารกู้ซื้อเพื่อขอสินเชื่อ
เบื้องต้นให้คุณปรึกษาพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์ก่อนว่า โครงการสามารถติดต่อเพื่อขอสินเชื่อธนาคารอะไรได้บ้าง และแต่ละธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยและวงเงินการกู้เป็นอย่างไรบ้างโดยหลักการเลือกธนาคารนั้นก็ให้เลือกจากธนาคารที่ท่านรับเงินเดือนผ่านนธนาคารนั้นๆ และจากธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยและวงเงินกู้คุ้มค่ามากที่สุด ควรเลือกธนาคารที่มีค่าดอกเบี้ยต่ำ ค่าเฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี เพราะคุณจะไม่สามารถรีไฟแนนซ์หนี้ไปที่อื่นได้ ส่วนวงเงินกู้ก็ให้คำนึงถึงธนาคารที่ให้วงเงินกู้มาก ๆ เพราะจะสบายกับคุณในช่วงแรกที่ต้องเริ่มต้นผ่อนนั่นเอง
- ดำเนินการเอกสารและโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อจัดเตรียมเอกสารและกู้สินเชื่อผ่านแล้ว มาถึงวันที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อขาย ตัวแทนโครงการและตัวแทนจากสถาบันการเงินจะต้องมาดำเนินการร่วมกันในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ สำหรับมือใหม่ เราแนะนำให้คุณติดต่อเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์มืออาชีพอย่าง Pattaya Prestige Property ด้วยจะดีที่สุด เพราะเอเจนต์จะช่วยตรวจสอบเอกสารในการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงช่วยให้คำแนะนำคุณว่าควรทำอะไรบ้าง เพื่อให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาของคุณราบรื่นมากที่สุด และเพื่อป้องกันไม่ให้คุณเสียผลประโยชน์ด้วย เนื่องจากในการโอนกรรมสิทธิ์จะมีเรื่องค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายที่ต้องตกลงกับโครงการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง
คนที่มีบ้านหรือคอนโดมิเนียมหลายที่ หากต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาควรทำอย่างไร ?
อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี นับเป็นเรื่องปกติที่ใครเมื่อมีเงินทุนแล้ว ก็มักจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้านและที่ดินเก็บไว้ แต่เมื่อกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่บังคับใช้งาน แล้วถ้าคุณมีอสังหาริมทรัพย์ไว้ครอบครองมากมาย คุณควรทำอย่างไร? เราขอให้คำแนะนำคุณง่าย ๆ 2 ข้อด้วยกัน
- โอนอสังหาริมทรัพย์เป็นชื่อคนในครอบครัว
ใครที่ต้องการซื้อบ้านและที่ดินในพัทยาเพื่อต้องการมอบให้ลูกหลานเป็นมรดก หรือมีลูกหลานที่เชื่อใจได้ การโอนบ้านเป็นชื่อลูกหลานเหล่านั้น สิทธิการเสียภาษีก็จะเข้าข่ายภาษีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยหลังแรกแทน ทำให้จะได้รับสิทธิยกเว้นการเสียภาษี หากบ้านหลังนั้นมีมูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านบาท
- ย้ายชื่อตัวเองไปอยู่อสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุด
หากใครที่ไม่ต้องการโอนบ้านและที่ดินให้เป็นของคนอื่น การโอนชื่อตัวเองไปอยู่บ้านและที่ดินที่มีมูลค่ารวมแพงที่สุด ถือเป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณประหยัดการเสียภาษีได้ดีทีเดียว เพราะบ้านหลังแรก คุณจะได้รับสิทธิการยกเว้นภาษีที่ดิน หากมูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านบาท และไปยอมเสียภาษีบ้านหลังอื่น ๆ ที่มีราคาถูกลงมาจะคุ้มค่ากว่านั่นเอง
กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่บังคับใช้ในปี 2563 ส่งผลหรือไม่ต่อการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา ?
ในปี 2562 ประเทศไทยมีการปรับเปลี่ยนและเริ่มใช้กฎหมายภาษีที่ดินใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ในปี 2563 นี้ ดังนั้นใครที่วางแผนจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาควรจะต้องศึกษาให้ดี เพราะมันมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาอย่างแน่นอน เนื่องจากรายละเอียดการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่บังคับใช้ใหม่นั้น มีเงื่อนไขและรายละเอียดหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทต่างก็มีอัตราการจ่ายภาษีที่แตกต่างกัน เพราะเหตุนี้เราจึงแนะนำให้คุณศึกษารายละเอียดให้ดี มิเช่นนั้นการลงทุนของคุณอาจจะไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรจะเป็นได้
อย่างไรก็ตาม กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ขึ้นอยู่ตามวัตถุประสงค์ในการถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่จะมีอยู่ 2 ประเภท ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งก็คือ
- ภาษีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย
ตรงตามชื่อของภาษีเลย คือการซื้อและถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดมิเนียม เพื่อการอยู่อาศัย โดยภาษีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย จะแบ่งย่อยอีกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- ที่อยู่อาศัยหลังแรก (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน)
คนที่ซื้อบ้านหลังแรก พร้อมที่ดิน หากมีมูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าหากเกิน 50 ล้านบาท ช่วง 2 ปีแรก (2563 – 2564) จะต้องเสียภาษีตามมูลค่าของบ้านเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ 0.03 – 0.10% และหลังจากปี 2565 เป็นต้นไป จะต้องเสียภาษีที่ดินอัตราไม่เกิน 0.30%
- ที่อยู่อาศัยหลังแรกที่เราเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน (บ้านหลังแรกและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน)
ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีที่ดินเหมือนที่อยู่อาศัยหลังแรกแบบที่หนึ่ง หากบ้านมีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท แต่ถ้าบ้านมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วง 2 ปีแรก (2563 – 2564) จะต้องเสียภาษีตามราคาสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ 0.02 – 0.10% และหลังจากปี 2565 เป็นต้นไป จะต้องเสียภาษีที่ดินอัตราไม่เกิน 0.30%
- ที่อยู่อาศัยหลังที่สองขึ้นไป
กรณีที่คุณต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาเพื่อการอยู่อาศัย โดยอสังหาริมทรัพย์หลังนั้นไม่ใช่ที่อยู่อาศัยหลังแรกของคุณ ในช่วง 2 ปีแรก (2563 – 2564) จะต้องเสียภาษีที่ดินแบบขั้นบันได ตั้งแต่ 0.02 – 0.10% และหลังจากปี 2565 เป็นต้นไป จะต้องเสียภาษีที่ดินอัตราไม่เกิน 0.30%
- ภาษีที่ดินเพื่อเชิงพาณิชย์
กรณีที่คุณมีที่อยู่อาศัยหลายแห่ง และต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยาเพื่อการลงทุน จะเข้าข่ายเป็นบ้านหลังที่สอง ในกรณีเช่นนี้ คุณสามารถทักท้วงการเรียกเก็บภาษีจากหน่วยงานรัฐได้ หลังจากได้รับเอกสารแบบประเมินภาษี
หากจะให้สรุปง่าย ๆ ก็คือ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย จะมีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 0.3 ของฐานภาษี หมายความว่าใครที่มีบ้านหรือที่ดินหลายแห่งจะต้องเสียภาษีในจำนวนที่มากขึ้น ยิ่งที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์จุดนั้นมีมูลค่ามากเท่าไหร่ คุณจะต้องเสียภาษีในจำนวนที่มากขึ้นเท่านั้น นักลงทุนทุกคนควรศึกษาและวางแผนให้ละเอียดมากขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุนกันด้วย
ไม่เคยมีประสบการณ์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา เลือกใช้บริการเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์จะดีหรือไม่ ?
เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเคยมีประสบการณ์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา และเพื่อเป็นการป้องกันการถูกเอาเปรียบจากผู้ขาย ฉะนั้นการเลือกใช้บริการเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์ Pattaya Prestige Property ก็นับเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะเอเจนต์เหล่านี้จะมีประสบการณ์มากมาย สามารถให้คำแนะนำคุณอย่างละเอียด รู้จักทำเลและราคาในพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยคุณตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยาของคุณอย่างละเอียด ป้องกันไม่ให้คุณเสียผลประโยชน์และถูกผู้ขายเอาเปรียบอย่างแน่นอน
เชื่อว่าคุณคงได้รับข้อมูลเบื้องต้นและคำแนะนำในการซื้ออสังริมทรัพย์ในพัทยากันมากขึ้นแล้ว ลองนำคำแนะนำของเราไปปรับใช้กันดู จงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ใช้เวลาให้เต็มที่ ไม่ต้องรีบร้อน และมองหาทำเลที่คุณต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยากันให้ดี เพราะราคาในแต่ละพื้นที่นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ตามกระแสสังคมและสภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นด้วยเช่นกัน แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็สามารถเลือกใช้บริการมืออาชีพอย่าง Pattaya Prestige Property ได้ ที่นี่เรามีความชำนาญ สามารถให้คำแนะนำและช่วยดำเนินงานทุกขั้นตอนแก่คุณอย่างรวดเร็ว เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกสะดวกสบายต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุด
ข้อแนะนำสำหรับพื้นที่และทำเลที่น่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา
เมืองพัทยาแบ่งออกเป็น 4 ทำเลหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพัทยา โดยแต่ละทำเลจะมีราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความนิยมและปัจจัยอื่น ๆ ในแต่ละช่วงสมัยด้วย
จอมเทียน
ทำเลอสังหาริมทรัพย์เรดโอเชี่ยนในเมืองพัทยาตอนนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากทำเลที่ดินยังมีจำนวนมากให้โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งเข้าไปพัฒนาได้อยู่ ทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มักจะเป็นโครงการใหญ่ ๆ น่าลงทุน ประจวบกับโซนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม และได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ จึงทำให้เป็นทำเลที่นักลงทุนมากมายต่างมองหาลู่ทางในการลงทุนอยู่ตลอด ยิ่งในตอนนี้ที่มีการพัฒนาการคมนาคม โครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีกำหนดการจะสร้างเสร็จในปี 2566 ส่งผลให้ทำเลนี้ยิ่งน่าลงทุนเข้าไปอีก ซึ่ง Rental Yield ในทำเลนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6 – 8.3% ต่อปี
นาจอมเทียน
ทำเลถัดมาที่อยู่ติดกับจอมเทียน โซนนี้จะติดชายหาดและส่วนใหญ่จะเป็นหาดส่วนตัว บรรยากาศทำเลนี้จะค่อนข้างเงียบ มีความเป็นส่วนตัวสูง โครงการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการใหญ่พรีเมี่ยมที่เน้นความหรูหราและเป็นส่วนตัว ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้จะแพงกว่าจอมเทียน แต่ก็นับว่าน่าลงทุนทีเดียว ซึ่ง Rental Yield จะอยู่ที่ประมาณ 4 – 7.2% ต่อปี
พระตำหนัก
ทำเลที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากย่านจอมเทียน เนื่องจากเป็นจุดชมวิวประจำเมืองพัทยา ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวและสามารถเดินทางเข้าในตัวเมืองพัทยาได้สะดวกรวดเร็ว แต่ข้อเสียของทำเลนี้คือส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เนื่องจากมีเนื้อที่ดินมีจำนวนจำกัด ซึ่ง Rental Yield ประมาณ 4.6 – 7% ต่อปี
วงศ์อมาตย์-เมืองพัทยา
ทำเลทองเก่าในเมืองพัทยาที่ติดชายหาดและใกล้ตัวเมืองพัทยา ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองพัทยาเลยก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้เปิดใหม่น้อยมาก ๆ ในแต่ละปี เนื่องจากที่ดินในทำเลนี้จะมีน้อยมาก ๆ มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์จะมีราคาที่แพงตามไปด้วย ซึ่งสมัยก่อนค่า Rental Yield โซนนี้สูงถึงประมาณ 4.5 – 9% ต่อปี แต่ปัจจุบันกลับลดลงจนไม่ค่อยเหมาะแก่การลงทุนซื้อสักเท่าไหร่
หมายเหตุราคาที่ดิน รวมถึงราคา Rental Yield ที่เราได้อธิบายมานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะตัดสินซื้ออสังหาริมทรัพย์ โปรดศึกษาให้ละเอียดเพิ่มเติมด้วย